จากการศึกษาและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยและจีนได้มีการติดต่อสัมพันธ์กันมาตั้งตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย
เป็นต้นมาชาวจีนจำนวนไม่น้อยได้อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย
และเกิดเป็นชุมชนชนกลุ่มน้อย ดังนั้นการศึกษาภาษาจีนในประเทศไทยก็ได้ถือกำเนิดขึ้น
พรอมกับการอพยพสูประเทศไทยของชาวจีน เหตุจูงใจของการเรียนการสอนภาษาจีนในยุคแรกๆ
เกิดจากความต้องการที่จะให้บุตรของตนเองได้สืบทอดภาษาและวัฒนธรรมของพวกเขา
โดยให้ครูมาสอนที่บ้าน การสอนภาษาจีนตามศาลเจา หรือการส่งไปเรียนที่ประเทศจีน
และเมื่อเวลาได้ดำเนินไป
สถานการณทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศไทยและประเทศจีนก็เปลี่ยนแปลงไป
ยังส่งผลต่อการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย
โดยในระยะที่ประเทศจีนปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต
การเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทยได้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
ใครที่เรียนภาษาจีนมักจะถูกมองว่าเป็นพวกที่ฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต และเมื่อปี
พ.ศ. 1975
ประเทศไทยและจีนไดสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต
การเรียนการสอนภาษาจีนจึงไดมีความสำคัญมากขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อเวลาผ่าน
ประชาชนจีนซึ่งถูกมองว่าเป็นดินแดนหลังม่านไม้ไผ่ในอดีต ได้กลับมาผงาดขึ้นเป็นประเทศแนวหน้าของโลกในด้านเศรษฐกิจ
คงต้องมีอะไรที่น่าสนใจที่จะต้องศึกษาเรียนรู้ในดินแดนที่ถูกเปิดออกสู่สาธารณชนแห่งนี้
คำพูดที่ว่าสมัยนี้รู้แค่สองภาษาไม่พอ
แต่ต้องรู้ภาษาที่ สาม สี่ ห้า น่าจะเป็นเรื่องจริงซะแล้ว
เพราะภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาที่สองกลายเป็นภาษาหลักที่ต้องรู้และสื่อสารได้
แต่ภาษาอื่น ต้องรู้เพื่อให้ทันโลก แต่เชื่อว่าหลายคนคงนึกเถียงในใจว่า
แค่ภาษาที่สองยังสอบตกอยู่ทุกปี แล้วจะแบ่งสมองส่วนไหนไปเรียนภาษาที่สามอีก
ถ้าเป็นสมัยก่อนคนที่เรียนภาษาที่สามได้ ก็จะเป็นเด็กสายศิลป์-ภาษา
แต่เดี๋ยวนี้เด็กสายวิทย์หลายคนก็หันไปเรียนภาษาที่สามเพิ่มในเวลาว่างมากขึ้น
ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะพ่อแม่สนับสนุนและอยากให้ลูกรู้หลายๆ ภาษา
ซึ่งจะได้เปรียบเวลาทำงาน แต่อีกผลหนึ่งก็คือ กระแสของประชาคมอาเซียน
ทำให้ตื่นตัวกันยกใหญ่ ส่งผลให้ภาษาของประเทศเอเชียบูมขึ้นมา โดยเฉพาะภาษาจีน
ที่คนหันมาเลือกเรียนเยอะขึ้นมาก!!
ปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศจีนเข้มแข็งและเติบโตขึ้น
ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศทางฝั่งตะวันตกเริ่มอ่อนตัวลง ทำให้ประเทศต่างๆ
หันมาเรียนภาษาในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น และ เกาหลี
ส่วนภาษาของประเทศฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะภาษาฝรั่งเศสมีคนเรียนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
ปัจจุบัน โรงเรียนสังกัด สพฐ. สอนภาษาต่างประเทศทั้งหมด 11
ภาษา ได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน รัสเซีย อาหรับ พม่า
เวียดนาม เขมร ไม่นับรวมภาษาอังกฤษ เพราะเป็นวิชาบังคับ
โดยภาษาที่มีผู้นิยมเรียนมากที่สุด 3 อันดับ ขณะนี้ คือ ภาษาจีน
มีโรงเรียนเปิดสอนภาษาจีนประมาณ 700 โรงเรียน มีนักเรียนประมาณเกือบ 300,000 คน
รองลงมา ภาษาญี่ปุ่น มีสอนประมาณ 175 โรงเรียน มีนักเรียนประมาณ 34,000 คน
และภาษาเกาหลี เพิ่งเปิดสอนไปเมื่อปี 2553 แต่มีผู้สนใจเรียนมากถึง 12,000 คน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นดังกล่าวนี้
จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนขึ้น
เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีน
และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในสังคมเศรษฐกิจ - ความรู้
รองรับการดำเนินงาน ซึ่งตามแผนมีเป้าหมายให้ประชาชนไทยอย่างน้อย 500,000 คน
มีความรู้ภาษาจีน สามารถสื่อสาร
แสวงหาความรู้และใช้เป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพได้
มีสถานศึกษาเปิดสอนภาษาจีนมากขึ้นทุกระดับ และภายในปี 2555
สถานศึกษาระดับขั้นพื้นฐานทุกแห่งจะเปิดโปรแกรมสอนภาษาจีน ในช่วงชั้นที่ 3
และช่วงชั้นที่ 4 โดยสาระสำคัญของยุทธศาสตร์ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนโดยย่อ
ดังนี้
รณรงค์สร้างความตระหนักและส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือในการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาจีนอย่างกว้างขวาง
จัดทำมาตรฐานหลักสูตรและทางการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในแต่ละระดับประเภทของการศึกษา
เพื่อให้สถานศึกษาแต่ละประเภท แต่ละระดับ ปรับใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการ
ส่งเสริมและพัฒนาสื่อสารการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทยให้มีคุณภาพและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ
วางระบบพัฒนาครูสอนภาษาจีนในระยะสั้นและระยะยาวให้ได้มาจรฐาน
โดยเริ่มจากการสำรวจสภาพปัจจุบันและข้อมูลเกี่ยวกับครูความต้องการของครูที่ต้องการพัฒนาในระดับต่างๆ
และจัดทำฐานข้อมูลเพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาครูเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐาน
และส่งเสริมความร่วมมือและสร้างเครือข่ายเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย
โดยการทำmapping โรงเรียนที่สอนภาษาจีนในประเทศไทยเพื่อกำหนดพื้นที่ที่ควรให้การสนับสนุนและส่งเสริมเป็นกรณีพิเศษ
และจากรายงานการวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่โจ้
โดยคุณสุวรรณ เลียงหิรัญถาวร ปี พ.ศ. 2553
เรื่อง
การวิจัยเรื่องการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายของจังหวัดเชียงใหม่
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในด้านต่าง ๆ ไดแก
จุดมุ่งหมายของการเรียนการสอน เนื้อหาวิชา วิธีการสอน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
สื่อการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผล เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ครูผู้สอน
และแจกแบบสอบถามนักเรียนที่เรียนภาษาจีนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ผลการวิจัย
ไดทราบถึงสภาพและลักษณะการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนดังนี้
จากความคิดเห็นของครูผู้สอน
ครูผู้สอนภาษาจีนส่วนใหญ่เป็นครูที่จบการศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน
รับผิดชอบสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มีภาระการสอน 20 – 22
ชั่วโมง/สัปดาห์ และส่วนใหญ่เคยเข้ารับการฝึกอบรมภาษาจีนมาแลว
วัตถุประสงค์ของการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย คือ
เพื่อให้นักเรียนไดฝึกทักษะการฟัง การพูด การอ่าน การเขียนภาษาจีน
สามารถใช้ภาษาจีนเพื่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน และศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นได
เนื้อหาของวิชาภาษาจีนส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาจีน
โดยมีการเสริมเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมจีน เน้นการสื่อสารในชีวิตประจำวัน
และเสริมเนื้อหาการติวข้อสอบเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย วิธีการสอนที่ใช้ในกาสอนภาษาจีนมีหลากหลายวิธี
เช่น การฝึกสนทนา อธิบายไวยากรณและฝึกแต่งประโยคหรือข้อความ และการคัดตัวอักษรจีน
มีการทำกิจกรรมนอกชั้นเรียนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การจัดบอรด จัดนิทรรศการตามเทศกาล
การประกวดร้องเพลงจีน เป็นต้น สื่อการสอนที่ใช้มีหลายหลายรูปแบบ เช่น CD เพลง
, VCD การตูน, หนังสือ/นิตยสาร/วารสาร,
ฮั่นจื้อกง, เว็บไซต เป็นต้น
สวนการวัดและประเมินผล ใช้เกณฑ์คะแนน 80 : 20
และ 70 : 30 ซึ่งมีการเก็บคะแนนระหว่างภาคจากแบบฝึกหัด,
การสอบย่อยในแต่ละทักษะ สอบกลางภาค และสอบปลายภาค
ปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเรียนสอนภาษาจีน พบปัญหาเรื่องเอกสารและหนังสือที่ใช้สอนในแต่ละโรงเรียน
ยังไมเป็นมาตรฐานเดียวกัน, ไมมีแผนการสอนและสื่อการสอนที่เป็นมาตรฐาน,
ปัญหาเรื่องขาดห้องภาษา และอุปกรณ์ฝึกทักษะ
เนื้อหาของแบบเรียนกับข้อสอบที่ใช้สอบเขามหาวิทยาลัยมีความแตกต่างกันมากทำให้นักเรียนต้องเรียนเสริมเพื่อการสอบ
จากความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่เรียนภาษาจีน
นักเรียนที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุของนักเรียนส่วนใหญ่คือ 16 ป
17 ปและ 18 ป
นักเรียนคิดว่าเนื้อหาของวิชาภาษาจีนที่เรียนมีความเหมาะสมปานกลาง
ในด้านวิธีการสอน นักเรียนมีความคิดเห็นว่ามีวิธีการสอนที่เน้นปฏิบัติมาก
โดยเฉพาะการสอนแบบเน้นทักษะการเขียน การอ่าน และการพูด
ในด้านกิจกรรมการเรียนการสอน
นักเรียนมีความคิดเห็นว่ากิจกรรมที่มีการปฏิบัติมากคือ
อาจารย์ให้นักเรียนคัดคำศัพท์เป็นการบ้าน ในด้านสื่อการสอน
พบว่ามีการใช้สื่อการสอนเหมาะสมในระดับปานกลาง สวนการวัดและประเมินผล
นักเรียนมีความคิดเห็นว่ามีความเหมาะสมปานกลาง
ทุกวันนี้
การจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาจีนในระดับประถมศึกษา เริ่มมีบทบาทสำคัญ
ซึ่งส่งผลต่อผู้เรียน และยังเป็นรากฐานในการเรียนในระดับที่สูงขึ้นต่อไป
สำหรับภาษาไทย หลายๆ คนคงจะสงสัยว่า
ภาษาของเราไม่มีบทบาทอะไรบ้างเลยหรอ ถึงจะไม่ค่อยมีข่าวอะไรออกมา
แต่ขอบอกว่าภาษาไทยของเรา ก็มีคนต่างชาติเรียนอยู่เยอะเหมือนกันนะ
อย่างมหาวิทยาลัยคิวชูของประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีเปิดวิชาภาษาไทย
ให้นักศึกษาลงเรียนและพอเรียนได้สักระยะก็จะมาแลกเปลี่ยนกับมหาวิทยาลัยมหิดล
ซึ่งทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ภาษาไทยสำเนียงเพราะ พูดแล้วเหมือนร้องเพลง
แต่เรียนยากมากๆ ได้ยินแบบนี้แล้ว เวลาได้ยินคนต่างชาติพูดภาษาไทยชัด และถูกต้อง
ผู้เขียนรู้สึกปลื้มทุกที และภูมิใจมากๆ ที่ภาษาไทยของเราก็มีชาวต่างชาติชื่นชอบ
ดังนั้นในฐานะที่เราเป็นคนไทย เรียนภาษาที่สามได้
แต่ก็อย่าลืมภาษาประจำชาติของเราด้วยนะคะ
แหล่งที่มา http://mcpswis.mcp.ac.th